การปลูกด้วยต้นกล้า[แก้] เมื่อเราเตรียมดิน กะระยะปลูก และขุดหลุมปลูกไว้แล้ว เพื่อป้องกันไส้เดือนฝอยจะเข้าทำลายรากของพืชที่เราปลูก ก่อนที่จะนำต้นกล้าลงปลูกในหลุมควรใช้ยาฟูราดานหรือใส่ลงไปในก้นหลุมก่อน หลุมละประมาณ 1 กำมือหรือใช้สตาร์เกิล จีรองก้นหลุมอัตรา 2 กรัมต่อหลุมปลูก คลุกเคล้าให้เข้ากับดินในหลุมปลูก แล้วนำถุงต้นกล้าที่เพาะไว้ได้ขนาดแล้ว มากรีดถุงพลาสติกและดึงออกให้เหลือแต่เบ้าดินที่ห่อหุ้มรากลงปลูกในหลุม กลบดินรอบๆ ให้มิดเบ้าดิน แล้วกดดินให้แน่น เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่ม การปลูกแคนตาลูปด้วยต้นกล้า ควรปลูกในตอนเย็นๆ หรือในวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน เพื่อกล้าแคนตาลูปจะได้ไม่เหี่ยวเฉาและหยุดการเจริญเติบโต การปลูกด้วยติ้งบ่องบ่วย[แก้] ให้คัดเลือกเอาเฉพาะเมล็ดที่สมบูรณ์และเต็มเต่งเท่านั้น หยอดลงไปในหลุมปลูกที่เราได้เตรียมไว้หลุมละ 3 – 4 เมล็ด กลบดินให้มิดเมล็ด นำหญ้าแห้ง ฟาง ใบไม้ผุๆ หรือแกลบ อย่างใดอย่างหนึ่ง คลุมหลุมที่หยอดเมล็ดไว้ รดน้ำให้ชุ่มเช้า – เย็นทุกวัน เมื่อเห็นว่าเมล็ดที่เราเพาะไว้งอกขึ้นมามีใบประมาณ 3 – 5 ใบ ให้ถอนต้นที่เล็กทั้งไปเหลือไว้เฉพาะต้นที่ใหญ่และแข็งแรง หลุมละ 2 ต้น เท่านั้น
หมวดหมู่: แคนตาลูป
พันธุ์ที่นิยมปลูก
พันธุ์สโมร์ชาร์ม ลักษณะทั่วไปคือ มีผลกลมคล้ายลูกโลก ผิวของผลมีสีเหลืองครีม เกลี้ยง เนื้อสีสัมอ่อน หรือสีชมพู เนื้อหนากรอบ และอ่อนนุ่ม แต่ละผลมีน้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม เจริญเติบโตได้ดีแม้ในที่ที่มีอากาศค่อนข้างเย็น พันธุ์ซันเลดี้ มีผลกลมรีรูปไข่ เปลือกมีผิวเกลี้ยง สีขาวครีม เนื้อหนาสีส้ม นุ่ม มีน้ำมาก รสหวานจัดและมีกลิ่นหอม ติดผลมาก แต่มีอายุสั้น ปลูกง่าย พันธุ์ซันไรท์ เป็นแตงพันธุ์เบา มีผลดก ผลมีสีเหลืองอ่อน มีลายเป็นตาข่ายทั้งผล เนื้อในมีสีส้มอ่อนๆ เนื้อนุ่ม มีน้ำมาก มีกลิ่นหอม ติดผลมาก แต่มีอายุสั้น ปลูกง่าย พันธุ์ซูก้าบอลล์ ลักษณะของต้นกะทัดรัด ปลูกระยะถี่ได้ ผลมีผิวเรียบ สีครีมหรือเกือบขาว เนื้อหนา สีหยกเขียว หวานจัด รสชาติดี ขนาดของผลปานกลาง มีน้ำหนักประมาณ 800 กรัมต่อผล ทนทานต่อความร้อนได้ดี พันธุ์มิลกี้เวย์ มีลำต้นแข็งแรง ปลูกง่าย ผลดก ผลมีสีเขียวโปร่งแสง ผลโตขึ้นเปลี่ยนเป็นสีขาวครีม เนื้อหนา กลิ่นหอมแรง มีปริมาณน้ำตาลสูง ผลใหญ่ […]
ลักษณะทั่วไป
ลักษณะทั่วไปของแคนตาลูป คือ มีลักษณะคล้าย ๆ แตงไทย คนไทยจึงเรียกว่า แตงเทศ หรือแตงฝรั่ง หรือแตงไทยฝรั่ง มีผลกลม ผิวของผลสีเขียว หรือสีน้ำตาลคล้ำ หรือสีเหลือง หรือสีขาว ทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์ ผิวของผลหยาบ มีเปลือกแข็ง มีร่องลึกรอบ ๆ ผล เปลือกมีลายคล้ายร่างแหหรือตาข่ายสีขาว หรือสีฟางแห้งคลุมตลอดทั้งผล แต่บางพันธุ์ก็ไม่มี บางพันธุ์มีผิวเรียบ ๆ เมื่อสุกเนื้อในมีสีส้ม หรือสีจำปา มีกลิ่นหอม รสหวาน
ประโยชน์ต่อร่างกาย
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยในการชะลอวัยและลดการเกิดริ้วรอย มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างภูมิร่างกายให้แก่ร่างกาย ช่วยบำรุงและรักษาสายตา มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง มีส่วนช่วยในเรื่องของการเกิดสมาธิ น้ำแคนตาลูปปั่น หวานสดชื่น ดับร้อน แก้กระหายได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของแคนตาลูป
แคนตาลูป เป็นพืชตระกูลแตง อยู่ในตระกูลเดียวกับแตงไทย มีทั้งพันธุ์เนื้อสีเขียวหรือขาวและสีส้ม ในเนื้อแคนตาลูปมีสารอาหารเยอะแยะ จำพวกโพแทสเซียม วิตามินต่างๆ โฟเลต แคลเซียม โครเมียม สารเบต้าแคโรทีน เป็นต้น สรรพคุณทางยาหรือคะ ก็ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติไง มีสารต้านมะเร็ง กากใยอาหารสูง แคลอรีต่ำ เหมาะมากกับคนกำลังลดน้ำหนัก อีกทั้งน้ำตาลและเอนไซม์ภายในแคนตาลูปจะเคลือบกระเพาะอาหาร บรรเทาโรคเกี่ยวกับลำไส้ รวมถึงโรคกระเพาะจากการกินอาหารไม่ตรงเวลา ผิวพรรณสดใส ผลไม้ชนิดนี้มีวิตามินเอสำหรับช่วยบำรุงผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ให้มีสุขภาพดี พ่วงด้วยวิตามินบี 3 ซึ่งคอยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ผิวพรรณจึงขาวกระจ่างจากภายในสู่ภายนอก มันมีเบต้าแคโรทีนสารต้านอนุมูลอิสระสูง ชะลอความเหี่ยวย่น ลดริ้วรอยต่างๆ ตลอดจนเติมความเปล่งปลั่งแก่ผิวพรรณ เร่งการเผาผลาญ วิตามินบี 6 ที่มีอยู่สูงในแคนตาลูปนั้นเป็นประโยชน์ต่อระบบเผาผลาญและสร้างพลังงานแก่ร่างกาย ลดไขมันพร้อมป้องกันการจับตัวของคอเลสเตอรอลบนผนังหลอดเลือด ที่สำคัญมีกากใยอาหารสูงไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น ระบบขับถ่ายคล่องตัวและบอกลาความอ้วนไปได้เลย สร้างภูมิต้านทาน แคนตาลูปมีสรรพคุณลดการติดเชื้อ มันเข้าไปเพิ่มจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาว ร่างกายเลยมีภูมิต้านทานแข็งแรง ติดเชื้อยากขึ้น อีกทั้งโพแทสเซียมในเนื้อแคนตาลูปยังมีฤทธิ์ควบคุมความดันโลหิตและการทำงานของกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี นอกจากนี้มีงานวิจัยพบว่า หากกินวันละ 100 กรัม สารต้านอนุมูลอิสระในแคนตาลูปสามารถลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งถึงร้อยละ 1.5